ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY) เผยทิศทางกลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ปี 2565 มุ่งเน้นการเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจ สร้างตลาดการเงินด้านความยั่งยืนให้เติบโตต่อเนื่อง ชูธงการเป็นผู้นำนวัตกรรมทางการเงินและองค์ความรู้ด้าน ESG และนำเสนอ Total Financing & Hedging Solution สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจของลูกค้าผ่านความร่วมมือ MUFG และสร้างความแตกต่างโดยการให้บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ เพื่อช่วยลูกค้าฟื้นฟูธุรกิจและขยายโอกาสด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ของลูกค้าแต่ละอุตสาหกรรม พร้อมเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจของลูกค้าอย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจระยะกลางปี 2564-2566
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมากลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจมียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 413,000 ล้านบาท ในส่วนของยอดสินเชื่อลูกค้าธุรกิจในปี 2564 ยังคงเติบโต 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงกรุงศรียังคงความเป็นผู้นำด้าน ESG ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งแรกในประเทศไทยให้บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งกรุงศรีเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจาก The Asset รวมทั้งได้รับความไว้วางใจจากบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ประสานงานด้านความยั่งยืนในการปล่อยสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน
นอกจากนั้น กรุงศรียังเป็นธนาคารแรกที่ประสานความร่วมมือกับพันธมิตรในการใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR ด้วยการเป็นพันธมิตรผู้สนับสนุนสินเชื่อธุรกิจของ ปตท. ซึ่งเป็นสินเชื่ออ้างอิง THOR ที่มูลค่าสูงที่สุดของไทยในขณะนี้ และร่วมกับบริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ประเดิมดีลสินเชื่อระยะยาวอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง THOR เป็นรายแรกในประเทศไทย ช่วยส่งเสริมนโยบายการพัฒนาตลาดการเงินไทยของธนาคารแห่งประเทศไทย กรุงศรียังประสบความสำเร็จในฐานะตัวแทนการจำหน่าย (Selling Agent) เปิดรับจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR สำหรับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยเปิดให้จองผ่านทางธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) และเป็นครั้งแรกที่เปิดให้จองหุ้นผ่านช่องทางออนไลน์บน KMA หรือกรุงศรี โมบาย แอปพลิเคชัน
สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2565 นี้ เราตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 2% และตั้งเป้าการเติบโตด้าน ESG Finance อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และให้ความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าด้าน ESG Financing ในตลาดการเงินโลกร่วมกับ MUFG เพื่อส่งเสริมการเติบโตของตลาดการเงินเพื่อความยั่งยืนในประเทศไทย และมอบบริการที่แตกต่างด้วยการให้คำปรึกษาทางธุรกิจโดยทีมผู้จัดการความสัมพันธ์ซึ่งผสานความร่วมมือจากทุกหน่วยงานภายในกรุงศรี รวมถึงการนำเอาความเชี่ยวชาญ องค์ความรู้จาก MUFG มาใช้ประโยชน์ เน้นการสร้างทีมที่แข็งแกร่งเข้าใจลูกค้า นำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า และมุ่งส่งเสริมการทำธุรกิจด้าน ESG เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยสนับสนุนลูกค้าในการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจยังคงมุ่งมั่นในการเป็น Trusted Partner หรือพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยสร้างการเติบโตผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่
สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ธุรกิจของลูกค้า : โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งโซลูชันให้ลูกค้าอย่างครบวงจรในแบบ Total Financing & Hedging Solution พร้อมประสานความร่วมมือกับ MUFG เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการช่วยลูกค้าขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งต่อยอดพัฒนาตลาดการเงินด้านความยั่งยืนด้วย ESG Finance ที่กรุงศรีมีความโดดเด่นและเชี่ยวชาญ โดยกรุงศรีมีแนวทางและผลิตภัณฑ์ด้านสังคม และการเงินเพื่อความยั่งยืน ที่พร้อมให้การสนับสนุนให้ลูกค้า เช่น สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน และหุ้นกู้ ESG รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ เช่น โซลาร์รูฟ
คุณภาพสินทรัพย์ : ให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องในช่วงการฟื้นฟูหลังจากสถานการณ์โควิด เพื่อให้ธุรกิจแข็งแรงขึ้น และสนับสนุนลูกค้าในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
และ Value Chain & Digitalization : โดยยังมีแผนที่จะนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการทำธุรกรรมการเงินมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และเดินหน้ายกระดับกระบวนการการทำงานภายในของเราด้วยการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเป็นตัวช่วยเสริมสร้างศักยภาพของระบบการทำงานและยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า
“การเติบโตในปีนี้เราเน้นเติบโตอย่างระมัดระวัง เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารยังต้องประคองต่อไป ขณะที่ ESG Finance ตั้งเป้าหมายเพิ่มอีก 50,000-100,000 ล้านบาทในปี 2030 ทั้งในส่วนของสินเชื่อและตราสารหนี้ จากปีก่อนที่มียอด ESG Finance จำนวน 22,.000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อ 6,000 ล้านบาท แ
อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket